Netnapa.net

ทัวร์ส่วนตัวยุโรป โดยคนไทยในเชค

ทัวร์เชค 10 วัน เช็ก ออสเตรีย ฮังการี เยอรมัน

 

วันแรก กรุงปราก (Prague)  / เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก ตั้งอยู่ใจกลางยุโรป สมญานาม “ไข่มุกแห่งยุโรป” ถือเป็นเมืองเก่าที่โรแมนติกที่สุดเมืองหนึ่งของโลก  ต้อนรับที่สนามบินกรุงปราก จากนั้นนำชมความงามของย่านเวนเชสลาส แหล่งชอปปิ้ง ร้านค้ามากมาย ต่อด้วย “จตุรัสเมืองเก่า” (OLD TOWN SQUARE) นาฬิกาดาราศาสตร์อายุกว่า 600 ปี สะพานชาร์ลที่ทอดผ่านแม่น้ำวัตตาวา แลนด์มาร์คที่ตราตรึงใจทุกคู่รัก ช่วงบ่าย ไฮไลต์สำคัญคือปราสาทแห่งกรุงปราค (PRAGUE CASTLE) ปราสาทที่มีพื้นที่มากที่สุดในโลก ซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาวิหาร พระราชวัง โบสถ์ รวมถึงถนน GOLDEN LANE ที่ตั้งของบ้านหลังเล็กๆ หลากสีสันที่ทรงเสน่ห์มาแต่โบราณ 

 

Day 2 – เชสกี้ ครุมลอฟ (Cesky Krumlov)  / เมืองเล็กมรดกโลก ถือเป็นเมืองน่ารักที่สุดเมืองหนึ่งของยุโรป ที่เป็นชื่นชอบของนักเดินทางไทยตลอดกาล ด้วยความน่าเอ็นดูของบ้านเรือนเล็กๆ แบบโบราณ สีสันฉูดฉาด มีแม่น้ำวัตตาวาโอบกอดไว้วงกลม และปราสาทตั้งตระหง่านอยู่จะจุดสูงสุดของเมือง ทำให้รู้สึกเหมือนพลัดยุคเข้าไปสู่เมืองเทพนิยายแห่งอัศวิน ตัวเมืองมีความเป็นมากว่า 300 ปี โดยราชวงศ์กุหลาบ หรือ ROZMBERKS ก่อนจะถูกเปลี่ยนมือมาอยู่มือ Eggenburg ซึ่งเป็นราชวงศ์ที่ทำเบียร์ในชื่อีเกนเบิร์กขายในปัจจุบัน และมีโรงบ่มเบียร์ตั้งอยู่ ณ เมืองนี้ และที่ไม่ควรพลาดคือ อาหารพื้นเมืองที่เมืองนี้อร่อยแทบทุกร้าน โดยเฉพาะพวกปิ้งๆ ย่างๆ และขาหมูแบบเช็ค อย่าลืมสั่งเบียร์อีเกนเบิร์ก! ท่านจะได้เข้าชมปราสาทครุมลอฟ ที่งดงามด้วยศิลปะหลากหลายยุคและยังคงความสมบูรณ์แบบทั้งศิลปะเครื่องเรือน จตุรัสกลางเมือง และร้านค้าน่าชอปปิ้งมากมาย ให้เวลาชอปปิ้งอิสระ เดินชิลล์รอบเมือง และรับประทานอาหารท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อ

 

Day 3 – กรุงเวียนนา (Vienna)  / นครหลวงแห่งออสเตรีย เมืองแห่งเสียงดนตรี ในแง่สมัยใหม่ ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกจากการโหวต เพราะวางผังอย่างดี มีสวนสาธารณะ ศิลปะ ความบันเทิง ครบ เวียนนาเป็นเมืองศิลปะแบบคลาสสิค บ้านเรือนสะอาด น่าอยู่น่าชม ที่ซึ่งศิลปะผสมผสานอย่างลงตัวกับความทันสมัย  ท่านจะได้ชมพระราชวังเชินน์บรุนน์ จำนวนเต็ม 40 ห้อง และเดินเล่นสวนของวังที่ออกแบบอย่างลงตัว 

รับประทานอาหารเที่ยง ลาดนัดเก่าแก่ของเมือง Naschmarkt มีอาหารนานาชาติมากมายให้ลิ้มลอง ของพื้นเมือง และผักผลไม้ จากนั้นเดินทางสู่ใจกลางเวียนนา หน้าพระลาน พระราชวังฮับบวร์ก ที่ตั้งของมหาวิหารนักบุญสเตฟาน ถนนชอปปิ้งคาร์ทเนอร์ ที่ตั้งของร้านค้ามากมาย เสื้อผ้า ของที่ระลึกทันสมัย และถนนสายแบรนด์เนม  ปิดท้ายความสวยงามด้วยสถานที่ไม่ควรพลาดอย่างศาลาว่าการกรุงเวียนนาในแบบกอธิค โรงละคร และรัฐสภา รับประทานอาหารเย็น

 

Day 4 – บูดาเปสต์ (Budapest)  / เมืองหลวงของประเทศฮังการี ค่าครองชีพถูกกว่าประเทศอื่นๆ ในทริป และถือเป็นเมืองหนึ่งที่สวยตราตรึงที่สุดในยุโรป เพราะมีแม่น้ำดานูบตัดผ่าใจกลางเมือง มีรัฐสภาสไตล์กอธิคตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ได้ชื่อว่าเป็นรัฐสภาที่สวยที่สุดในโลก พาท่านแลกเงินที่ตลาดนัดใจกลางเมือง พร้อมๆ กับชมสินค้าพื้นเมืองราคาถูกๆ (Great Market Hall) จากนั้นนั่งรถชมรัฐสภา (Paliament) จตุรัสฮีโร่ (Heroes Sqaure) และถนนหรูหราสายหน้าโอเปร่า (Andrássy Street & Hungarian State Opera House) ตบท้ายด้วยจุดชมวิวของเมืองอย่าง Castle Hill อันเป็นตั้งของ Buda Castle และป้อมปราการชาวประมง หากเวลาเหลือ พาไปต่อที่ Gellert Hill จุดชมวิวอีกจุดที่งดงามมากยามเย็นๆ เห็นแสงไฟ และถ้าท่านต้องการ แน่นอน! ล่องเรือชมแม่น้ำดานูบยามค่ำคืน

 

Day 5 – กราซ (Graz) / ออกเดินทาง 150 กม. ไปเมือง Graz เมืองมรดกโลกของออสเตรีย ถือเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของออสเตรีย เมืองการศึกษาที่มีมหาวิทยาลัยกว่า 6 แห่ง โดยมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดก่อตั้งในปี ค.ศ. 1585 ชื่อเมือง "กราซ" หมายถึง "ปราสาทน้อย" ในอดีต เนื่องจากเป็นเมืองหน้าด่านทางใต้ จึงต้องทำสงครามกับกองทัพเติร์ก แต่คนกราซก็ไม่เคยพ่ายสงครามให้แก่เติร์ก แต่ในช่วงสงครามโลกครั้งสอง ถูกนาซีเข้ายึด และโซเวียตเข้าอารักขาในช่วงท้ายสงคราม ตัวเมืองเก่าจึงไม่ถูกถล่มเหมือนเมืองอื่น ทำให้ได้รับการอนุรักษ์ให้เป็นเมืองมรดกโลก และในปี ค.ศ. 2003 ได้รับเลือกให้เป็นเมืองหลวงด้านวัฒนธรรมของยุโรป นอกจากนี้ยังเป็นเมืองเกิดของพระเอกฮอลลีวู้ดชื่อดัง อาโนวล์ ชวาเซนเกอร์ อีกด้วย 

ท่านจะได้ชม Schlossberg ซึ่งเป็นที่ตั้งของนาฬิกาประจำเมือง เป็นสัญลักษณ์ของเมืองกราซ มองเห็นวิวเมืองทั้งหมด และตึกประหลาดที่ดังระดับโลกอย่างตึก Kunsthaus จากนั้นนั่งรถรางลงมาชมเมืองเก่า สองส่วนนี้ซึ่งได้รับการอนุรักษ์ให้เป็นมรดกโลก พาท่านดินไปบนถนนสายธุรกิจ Herrengasse และชมด้านหน้า Opernhaus ไม่ไกลจากนั้นคือ ตลาดนัดกลางแจ้ง (open-air market) ขายผักผลไม้ และของพื้นเมือง จากนั้นชมโบสถ์ Herz-Jesu-Kirche ซึ่งถือว่าเป็นอาคารที่สูงที่สุดในออสเตรีย

 

Day 6 – ฮอลสตัทท์ (Hallstatt)  / เดินทางไปเมืองฮอลสตัทท์ (HALLSTATT) เมืองเก่าแก่ของโลก ตั้งอยู่ในแคว้นซัลคัมเมอร์กุท ในอดีตเป็นเมืองที่ตั้งของถ้ำเหมืองเกลือ ปัจจุบันกลายเป็นเมืองธรรมชาติที่บริสุทธิ์ บ้านเมืองแบบบ้านนอกโบราณ อายุกว่า 300-400 ปี และฉากถ่ายทำหนังรักเกาหลีหลายเรื่อง ปัจจุบันจีนทุ่มทุนมหาศาลสร้างเมืองฮัลสตัทท์จำลองที่เมืองจีนด้วย สำหรับคนไทยเป็นเมืองดังในฝันทุกเวบบอร์ด หมู่บ้านเล็กๆ มีประชาชนเพียงพันคน ที่พักไม่กี่แห่ง แต่มีเสน่ห์เกินตัว 

 

Day 7 – ซาลส์บวร์ก (Salzburg)  / ซาลบวร์กเป็นศูนย์กลางการค้าเกลือในอดีต สู่เมืองใหญ่อันดับสี่ของออสเตรีย เป็นที่กล่าวถึงถึงในเรื่องของเมืองแบบบาโร้คที่สมบูรณ์ที่สุดเมืองหนึ่งของโลก จนได้สมญานามว่า “เพชรแห่งบาโร้ค” และยังเป็นเมืองเกิด “โมสาร์ท” บรรยากาศของดนตรีคลาสสิคทั่วเมือง 

พาท่านชมความน่ารักของสวนมิลาเบล ฉากถ่ายทำภาพยนตร์อมตะ “THE SOUND OF MUSIC” หรือ “มนต์รักเพลงสวรรค์” สวนสวยของเมือง ลานใต้ ป้อมปราการปราสาท โฮเฮนซาลส์เบิร์ก” (HOHENSALZBURG) ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา และเดินข้ามสะพานที่ข้ามแม่น้ำซัลสัค ชมเมืองเก่าบนถนนชอปปิ้ง GETREIDE GASSE ชอปปิ้งอิสระ เดินชิลล์รอบเมือง

 

Day 8 – ฟุสเซ่น (Fussen) / ช่วงเช้า เดินทางไปปราสาท Neuschwanstein Castle (150 กม.) ชมด้านในปราสาทนอยชไวน์สไตน์ เดินเล่น และรับประทานอาหารเที่ยง จากนั้น city walk เมือง Fussen เป็นเมืองน่ารักๆ และมีความเก่าและทันสมัยอยู่ในตัว เดินชิลล์รอบเมือง กับร้านรวงเก๋ๆ รับประทานอาหารเย็นอิสระ ตามชอบในเมือง Fussen - ฟุสเซ่นตั้งอยู่เมือง Schwangau แคว้นบาวาเรีย แคว้นท่องเที่ยวสำคัญที่สุดของเยอรมัน ฟุสเซ่นเป็นเมืองใหญ่และศูนย์กลางของนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวปราสาทนอยชไวน์สไตน์ (Schloss Neuschwanstein) เมืองนี้มีอายุกว่า 700 ปี เป็นเมืองล่างสุดของโปรแกรมเที่ยว “ถนนสายโรแมนติกของเยอรมัน” ถือเป็นเมืองยุคกลาง โอบรอบด้วยเทือกเขาแอลป์ แถมยังตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Lech และมีทะเลสาปมากมาย ต้นไม้เขียวชะอุ่ม ในหน้าหนวก็มีหิมะงดงามเหมือนในเทพนิยาย

 

Day 9 – Linderhof- Herrenchiemsee Castle / สำหรับทัวร์ทั่วไป เมื่อมาเที่ยวปราสาทนอยชไวน์สไตน์เสร็จแล้วก็มักจะผ่านเลยไป แต่สำหรับทริปเจาะลึก ควรดื่มด่ำกับความงามของแคว้นนี้มากขึ้น พาท่านชมปราสาทลินเดิลฮอฟที่สร้างโดยพระเจ้าลุดวิท ในแบบรอคโคโค โดยขนาดไม่ใหญ่ แต่ด้านในตกแต่งอลังการเทียบเท่าแวร์ซายน์ โดยเฉพาะห้องกระจกที่สะท้อนเหลี่ยมมุมกันเพลินตา และเส้นทางกว่าจะถึงปราสาทนี้ก็ผ่านเทือกเขาและทะเลสาปที่งดงาม จากนั้นไปต่อที่ปราสาทเฮอร์เรนชิมเซ ซึ่งสวยยิ่งกว่าสวยขึ้นไปอีก ต้องนั่งเรือ และไปชมปราสาทกลางน้ำ มีห้องโถงที่อลังการโถงทางเดินยาวกว่า 100 เมตร นอนแถบเมือง Prien

 

Day 10 – มิวนิค (Munich)  / “มิวนิก” เป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ (รองจากเบอร์ลินและฮัมบูร์ก) หนึ่งในเมืองที่มั่งคั่งที่สุดของยุโรป เมืองแห่งเทศกาลเบียร์และคอบอล เป็นเมืองชอปปิ้งถูกใจนักท่องเที่ยว มีแหล่งชอปปิ้งมากมาย และสีสันแห่งเมืองเศรษฐกิจ ท่านจะได้ชม “โชว์รูม BMW” นวตกรรมรุ่นใหม่ของ BWM ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามโอลิมปิคสเตเดี้ยมพาร์ค และไปชมความเก่าผสมความใหม่ที่ “มาเรียนพลัสท์” ลานคนเดิน เสาพระแม่มารีทองคำ หอนาฬิกาสูง 85 เมตร ที่มีตุ๊กตาเกือบเท่าคนจริงเต้นระบำกว่า 32 ตัว และ “มิวนิคเรสซิเด้นท์” (ด้านนอก) และตบท้ายมื้อเย็นด้วยเบียร์เยอรมันและขาหมูเยอรมันร้านดัง

ช่วงเช้า หลังรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมแล้ว  พาเดินทางไปมิวนิค ชม BMW โชว์รูมชื่อดังที่แสดงรถยนต์รุ่นล่าสุด จากนั้นชมด้านหน้าพระราชวัง Nymphenburg palac และพาชม Marienplatz และบริเวณหน้าพระลาน Munich Residenz พารับประทานอาหารร้านดังของมิวนิค ขาหมูและเบียร์เยอรมัน  และส่งท่านที่สนามบินมิวนิค ณ เวลากำหนด

 

การจองตั๋ว

กรุงเทพ - กรุงปราก

มิวนิค - กรุงเทพ 

 

ราคา 

เดินทาง 6-7 ท่าน ท่านละ 62,500 บาท

 

ราคารวม

1. รถตู้ พร้อม TOUR LEADER

2. โรงแรมระดับ PENSION - 3 ดาว (หาก ต้องการคุณภาพ ควร UPGRADE)

3. ประกันการเดินทางแบบกลุ่ม

 

ราคาไม่รวม

1. ตั๋วท่องเที่ยว ตั๋วเรือ และตั๋วอื่นๆ หน้างานตามจริง และจ่ายให้ไกด์ด้วย

2. อาหารเที่ยงและเย็น

3. ทิปคนรถ คณะละ 300 ยูโร ถือเป็นข้อตกลง 

4.ทิป TOUR LEADER คณะละ 300 ยูโร ถือเป็นข้อตกลง

5. ภาษี

 

หมายเหตุ : เงื่อนไขทัวร์ ต้องอ่าน