ทัวร์เบลเยี่ยม - เนเธอร์แลนด์ แบบส่วนตัว 8 วัน
วันแรก บรัสเซลส์ (Brussels) / เมืองหลวงของเบลเยี่ยม “บรัสเซลล์” คือเมืองงามแห่งยุโรป สถาปัตยกรรมแบบยุโรป ในสไตล์กอธิค คลาสสิค และอาร์ตนูโว อุดมด้วยพิพิธภัณฑ์กว่า 70 แห่ง เป็นที่ตั้งของสภายุโรป จึงได้รับการขนานนามว่า “เมืองหลวงของสหภาพยุโรป” และเป็นเมืองแห่งชอคโกแลตสุดอร่อย และเบียร์ชื่อดัง ทัวร์ส่วนตัวเบลเยี่ยม-เนเธอร์แลนด์ จะพาท่านชมความงามของศาลาว่าการ ณ จตุรัส Grand Place ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นจตุรัสที่สวยที่สุดในยุโรป ชมรูปปั้นชื่อดัง “หนูน้อยยืนฉี่” ที่มีตำนานมากมายให้ค้นหา จากนั้นชมช็อปร้านชอคโกแลตแสนอร่อยทั่วเมือง เที่ยวเจาะลึกแบบส่วนตัว ยังพาเดินชมจตุรัสน่ารักๆ ณ Place du Grand Sablon ที่มีบ้านยุคศตวรรษที่ 16-19 แบบเบลเยี่ยม และวันเสาร์อาทิตย์ จะมีตลาดนัดของเก่า ชมและสักการะ Church Notre-Dame-du-Sablon ซึ่งมีกระจกสีงดงาม แล้วไปต่อที่พระราชวัง Royal Palace สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ด้านในส่วนงาม และบริเวณรอบๆ เต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์ศิลปะมากมาย เช่น พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งเบลเยียม (Royal Museum of Fine Arts) พิพิธภัณฑ์ศิลปะโบราณ (Musee d 'Art Ancien) และ พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ (Musee d' Art Moderne) พิพิธภัณฑ์เครื่องดนตรี (Museum of Musical Instruments) และพิพิธภัณฑ์ศิลปะอาร์ตนูโวของฮอร์ตา (Art Nouveau Horta Museum) ให้เลือกชมตามความสนใจ ทัวร์เบลเยี่ยมแบบส่วนตัว ไม่เหมือนทัวร์กรุ๊ปใหญ่ให้คุณเลือกเที่ยวเจาะลึกได้ตามความสนใจชอบ ทั้งยังมีที่เที่ยวอื่นๆ ให้คุณเลือกอีกมากมาย เช่น Mini Europe, อนุสรณ์อะโตเมี่ยม (Atomium) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ในการจัดงานแสดงสินค้าโลก, อาคาร Brussels Stock Exchange และอาคาร Belgian Senate ที่สวยงาม ท่านเลือกเที่ยวได้ตามใจชอบและเวลาที่ต้องการ
Day 2 – โทเน่ (Tournai) / “โทเน่"เป็นการเที่ยวแบบส่วนตัวที่ไม่เหมือนใคร ชมเมืองเก่าแก่ที่สุดของเบลเยี่ยม ที่ทัวร์ใหญ่ไม่พาไป แต่ท่านจะได้ดื่มด่ำกับเมืองโบราณ 2,000 ปี พาท่านชมความงามของมหาวิหาร Cathédrale Notre-Dame de Tournai มหาวิหารประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดของประเทศ ในแบบโรมันเนสก์และกอธิค ถือเป็นมรดกโลก เพราะเป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดในเบลเยี่ยม จากนั้นชมหอระฆัง Belfry ซึ่งตั้งอยู่ในกลางเมือง ถืิอเป็นมรดกโลกเช่นกัน มีความสูง 72 เมตร และบันได 256 ขั้น ต่อด้วยสะพานโบราณ Pont des Trous สร้างในศตวรรษที่ 13 ทรงคุณค่าเพราะเป็นสะพานทหารแบบยุคกลาง 1 ใน 3 ของโลกที่เหลืออยู่ ตอนเย็นพาท่านไปพัก ณ เมืองริมมหาสมุทรนอร์ธซี (North Sea) เมืองแบลงเคนเบิร์ก (Blankenberge) ถ้ามีเวลาท่านจะได้ชมริมทะเลแบบเบลเยี่ยม หมายเหตุ คณะที่เดินทางช่วงกลางเดือนมีนาคมถึงกลางเดือนพฤษภาคมทุกๆปี จะเปลี่ยนจากเมืองรอตเตอร์ดัมและอูเทร็ชวันนี้ เป็นเที่ยว “สวนดอกไม้เคอเคนฮอฟ” (เมือง Lisse) แทนค่ะ
Day 3 – บรูกส์ (Bruges) / เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดของเบลเยี่ยม เมืองยุคกลางที่แสนโรแมนติก เต็มไปด้วยบ้านเก่า ตรอกโบราณ คลอง วัง จนได้ชื่อว่า “เวนิสของยุโรปเหนือ” พาท่านชมจตุรัสกลางเมือง Grote Market รายรอบด้วยบ้านยุคศตวรรษที่ 13 และ ณ ศาลาว่าการสามารถขึ้นชมวิวบนหอคอยสูง 83 เมตรได้ ศาลาว่าการแห่งนี้ สร้างระหว่างปี ค.ศ. 1376 - 1420 มีทัวร์ให้ชมด้านในห้องกอธิคหากท่านต้องการ
หรือหากท่านชอบงานศิลปะ อย่าพลาดชม Groeninge Museum กับภาพมาสเตอร์พีซระดับโลกโดย Jan van Eyck (ชาวเนเธอร์แลนด์) ในภาพ Virgin and Child with Canon van der Paele ชมปราสาทประจำเมือง (Burg Bruges) จากนั้นอิสระให้นั่งเล่น เดิน ชม ชอป ตรอกซอกซอยตามใจชอบ หรือจะนั่งเรือล่องคลองในบรูกส์ก็ได้
Day 4 – เก้นท์ (GHENT) / เมืองเล็กน่ารักอย่างแท้จริง! แล้วคุณจะหลงรักเก้นท์สุดใจ! โดยเฉพาะภาพฉากบรรยากาศยามค่ำคืนที่สุดงดงาม โรแมนติก ดังภาพในยุคอดีตที่หวนคิดถึง Lonely Planet ขนาดนามเมืองนี้ว่า “Europe’s best kept secret” ส่วน National Geographic Traveler บอกว่าเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่ถ่ายรูปสุดสวยแห่งปี พาท่านชมโบสถ์ Sint-Baafskathedraa ณ จตุรัสใจกลางเมือง ซึ่งด้านในโบสถ์มีภาพเขียนชื่อดังของ Jan van Eyck (ชาวเนเธอร์แลนด์) ชื่อภาพ "De aanbidding van het Lams God" และกระจกสีชุดสุดงามตาทรงคุณค่ายิ่ง ตามต่อด้วยร้านคาเฟ่ชื่อดังประจำเมือง ที่ในอดีตเป็นตลาดค้าเนื้อสัตว์ และคนเบลเยี่ยมเอามาตกแต่งแบบร่วมสมัยได้อย่างน่านั่ง สุดรื่นรมย์ ต่อเนื่องด้วยชมปราสาท Gravensteen ของบรูกส์ ซึ่งมีจุดชมวิวสูงของเมือง และล่องเรือชมความงามของเมืองนี้ (หากต้องการ) ตามต่อด้วยร้านอาหารอร่อยๆ ริมคลอง แบบดื่มด่ำบรรยากาศ เช็คอินโรงแรม พักผ่อน และตกค้างคืน ออกมาเดินเล่นเอาบรรยากาศแสงสียามค่ำคืนสุดเต็มอิ่ม
Day 5 – แอนเวิร์บ (ANTWERP) / วันนี้เป็นทีของเมือง “แอนเวิร์บ”เมืองใหญ่ และหลากหลายวัฒนธรรมที่ท่านต้องชอบมากๆ สามารถเดินเที่ยวชอปปิ้งได้ทั่วเมือง มีของดีไซน์ใหม่ๆ เก๋ๆ ให้ดูตลอด ศิลปินทั่วโลกชอบความหลากหลายของเมืองนี้ที่ผสมของเก่าและของใหม่ได้อย่างเท่ เลยมารวมตัวกันเปิดร้านเล็กๆ ไปจนถึงร้านใหญ่ๆ มากมาย แค่เดินชอปให้ทั่วเมือง ในรัศมี 360 องศา ก็เปิดไอเดียสุดๆ แล้ว ดังนั้นที่นี่เราจะเที่ยว The must กันแค่ครึ่งวัน และอีกครึ่งวัน ปล่อยให้เดินเล่น ชอปให้สะใจ ตามสไตล์ทัวร์ส่วนตัวที่ต้องการอิสระนะคะ The Must ที่จะพาชมได้แก่ Steen castle ปราสาทประจำเมือง หนึ่งในปราสาทสไตล์ป้อมปราการ ยุคกลางที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป จากนั้นไปที่ใจกลางเมือง Great Market Square มีตรอกมุมให้เดินทั่วไปหมด หากต้องการไม่เหมือนใคร ลองไปชมสถานีรถไฟที่สวยงามของแอนเวิร์บได้ (Antwerp's Centraal) หรือจากการที่เมืองแอนเวิร์บเป็นศูนย์กลางค้าเพชรของโลก ตลาดกว่า 85% ของโลก มีการซื้อขายที่นี่ เราจึงไม่พลากชม Diamonds' District (Diamantkwartier) และท่านจะได้ชมโชว์รูมเพชรขนาดใหญ่อย่าง Diamondland หรือถ้าชอบงานศิลปะ Unseen ที่นี่เลยค่ะ Antwerp Belgium's Plantin-Moretus Museum พิพิธภณฑ์แห่งเดียวในโลกที่เป็นมรดกโลก สร้างจากโรงพิมพ์เก่าสมัยศตวรรษที่ 16 มีห้องสมุดที่เก็บหนังสือพิมพ์จากกูเทนเบิร์ก ถ้าคุณรักหนังสือ ชอบศิลปะ และดีไซน์ เราจะพาไปเที่ยวที่นี่ค่ะ ช่วงบ่าย ชอปปิ้งอิสระ และรับท่านส่งกลับโรงแรมที่พักค่ะ
Day 6 – รอตเตอร์ดัม (Rotterdam) - อูเทร็ช (Utrecht) / “รอตเตอร์ดัม” เป็นเมืองท่าเรือที่สำคัญของยุโรป เป็นเมืองที่มีบรรยากาศของตึกรามสมัยใหม่ ดีไซน์ล้ำๆ ให้เรา amazing แล้วก็แปลกตาแตกต่างไปจากเมืองอื่นๆ ของทริป ถือว่าช่วยให้ทริปนี้ครบรสชาติมากขึ้นค่ะ เที่ยวทัวร์รอตเตอร์ดัมแบบส่วนตัวเจาะลึก แน่นอนว่าไม่พลาดพาท่านชม ท่าจอดเรือ สะพานแดง สะพาน Willembrug และสะพานขาว (Erasmusbrug) ที่ใต้สะพาน Erasmus และหากท่านต้องการ สามารถพาท่านล่องเรือ Spido Boat Trip ชมอ่าวท่าเรือรอตเตอร์ดัม เป็นเรือขนาด 3 ชั้น ราคา 10 ยูโร ต่อท่าน (แนะนำเฉพาะในช่วงที่อากาศไม่หนาวเกินไป) จากนั้นบ้าน Cube House บ้านที่ออกแบบเป็นที่อยู่อาศัยแบบลูกเต๋าเรียงต่อกัน ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปของที่นี่ ทิ้งท้ายเมืองด้วย “ถนนชอปปิ้งสตรีท”ชื่อดังของเมือง ที่ยาวกว่า 2 กม. ได้เวลาพอสมควร ตามคณะต้องการ จากนั้นเราเดินทางไม่นาน 70 กม. ในเวลาประมาณ 1 ชม. ไปต่อที่ “เมืองอูเทร็ช” เป็นเมืองใหญ่อันดับ 4 ของเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ใจกลางประเทศ จึงเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางรถไฟและรถยนต์ แต่ใจกลางเมืองก็มีเสน่ห์ไม่น้อย เมืองนี้ถือว่าเป็นของแถมของที่นี่ แต่เมื่อเร็วๆ นี้ BBC Travel ยกย่องให้เป็นเมืองนี้เป็นหนึ่งในเมืองที่มีความสุขที่สุดในโลก เราจะค้างคืนที่เมืองแห่งความสุขนี้ แต่ก็ไม่ลืมสำรวจตัวเมืองเก่าทางวัฒนธรรมในศตวรรษที่ 7 อย่างมหาวิหารประจำเมือง St Martin's Cathedral (สร้างในปี ค.ศ. 1254 - 1520) ที่ตั้งของ Dome Tower ที่สูงถึง 112 เมตร บันได 465 ขั้น ถือว่าสูงที่สุดเนเธอร์แลนด์! ใช้เวลาสร้างกว่า 300 ปี หากท่านเดินไหว ณ ด้านบนทาวเวอร์ก็จะได้ชมและถ่ายรูปเมืองในมุมสูง (ต้องซื้อตั๋วและขึ้นเป็นรอบๆ ตามกำหนดนะคะ) มหาวิทยาลัยอูเทร็ชเป็นมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดของเนเธอร์แลนด์ บรรยากาศของเมืองนี้ไม่ดังมาก แต่รื่นรมย์ ถ้ามีเวลาเดินไปยังตรอกที่มีเสน่ห์ล้นเหลืออย่าง Alleyway round หากเวลาเหลือพาไปชมโบสถ์ The Saint Willibrordchurch ที่ด้านในตกแต่งสวยมากๆ พาท่านดินเนอร์ก่อนกลับโรงแรมที่พัก
Day 7 – อัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) / กรุงอัมสเตอดัม (Amsterdam) เมืองหลวงของเนเธอร์แลนด์ พาท่านไปท่าเรือหน้าสถานีรถไฟ ล่องเรือกระจก โดย Holland Inrenational มีเรือออกทุกๆ 30 นาที ใช้เวลาล่องเรือประมาณ 30 นาที ชมบรรยากาศของคลองมรดกโลกในกรุงอัมสเตอร์ดัมที่ออกแบบระบบคลองได้อย่างน่าทึ่งตั้งแต่สมัยหลายร้อยปีก่อน ชื่นชมบ้านเรือนเก่าริมสองฝั่งคลอง จากศตวรรษที่ 17 นั่งเรือลอดสะพานโค้ง และผ่านคลองแคบอย่างสนุกสนาน (ควรเลือกนั่งเรือฝั่งซ้าย วิวดีกว่า) เนเธอร์แลนด์มีชื่อเสียงเรื่องดอกไม้งาม เราจะไปต่อที่ตลาดดอกไม้ Koningsplein ที่ทอดตัวริมคลองกว่า 500 เมตร ถ่ายภาพให้ชื่นใจ จากนั้นเที่ยวชม Dam Square ศูนย์รวมสถานที่สำคัญของเมืองอย่างพระราชวังและอนุสาวรีย์ และ Red Light (เขตให้บริการทางเพศที่ถูกกฏหมายของเนเธอร์แลนด์) ท่านสามารถลองไปเดินสังเกตการณ์เป็นประสบการณ์ได้ค่ะ และที่อัมสเตอร์ดัม หากท่านต้องการชมงานศิลปะของ แวน โก๊ะ ณ Van Gogh Museum สามารถเลือกชมได้ตามอัธยาศัย พาท่านรับประทานอาหารท้องถิ่นชื่อดังของเมือง
Day 8 – หมู่บ้านกังหันลมซานสคันส์ (Zaanse Schans) / วันสุดท้ายออกเดินทางจากกรุงอัมสเตอร์ดัมประมาณ 20 กม. ไปชม “หมู่บ้านกังหันลมซานสคันส์” (Zaanse Schans) สัมผัส “กังหันลม” แบบดัตช์ ซึ่งแน่นอนงานชมวิธีการผลิตรองเท้าไม้ของชาวดัตช์ ต้องมา! นอกจากนี้ท่านจะได้เห็นบ้านเรือนริมน้ำโบราณ และโรงงานชีสอีกด้วยค่ะ เราจะใช้เวลาอย่างน้อยประมาณ 3 ชม. ในย่านนี้เพื่อเดินชมกังหันลมตัวใหญ่ๆ และร้านน่ารักๆ ค่ะ (ร้านค้าปิด 5 โมงเย็น) มีเวลาเหลือชอปปิ้งตามอัธยาศัย ท่านรีเควสได้เลยสำหรับโปรแกรมทิ้งทวนในวันสุดท้ายค่ะ และเมื่อได้เวลาพอสมควรแล้วส่งท่าน ณ สนามบินเพื่อเดินทางกลับ ตามเวลาของสายการบินท่าน
การจองตั๋ว
กรุงเทพ - บรัสเซลล์
อัมสเตอร์ดัม - กรุงเทพ
ราคา
เดินทาง 6-7 ท่าน ท่านละ 55,000 บาท
ราคารวม
1. รถตู้ พร้อม TOUR LEADER
2. โรงแรมระดับ PENSION - 3 ดาว (หาก ต้องการคุณภาพ ควร UPGRADE)
3. ประกันการเดินทางแบบกลุ่ม
ราคาไม่รวม
1. ตั๋วท่องเที่ยว ตั๋วเรือ และตั๋วอื่นๆ หน้างานตามจริง และจ่ายให้ไกด์ด้วย
2. อาหารเที่ยงและเย็น
3. ทิปคนรถ คณะละ 300 ยูโร ถือเป็นข้อตกลง
4.ทิป TOUR LEADER คณะละ 300 ยูโร ถือเป็นข้อตกลง
5. ภาษี
หมายเหตุ : เงื่อนไขทัวร์ ต้องอ่าน