เที่ยวยุโรปช่วงไหนดี
ปลายพฤศจิกายน-ธันวาคม-มกราคม- กลางกุมภาพันธ์ ฤดูหนาว โดยหิมะจะหนาแน่นมากที่สุดในเดือนมกราคมค่ะ (กลางกุมภาพันธ์ หิมะขาวโพลน)
มีนาคม-เมษายน เป็นปลายฤดูหนาว ต้นฤดูใบไม้ผลิ อากาศแปรปรวน มีทุกฤดู (ช่วงเมษายน อาจเจอฝนได้ ให้เตรียมร่ม และเสื้่อกันฝน)
พฤษภาคม-มิถุนายน ช่วงที่อากาศดีที่สุด ฤดูใบไม้ผลิ ทุกอย่างสดใส ใบไม้สีเขียว เที่ยวได้ทั้งวันทั้งคืน อากาศสบาย กลางคืนมืดช้า (ทัวร์แน่น ให้รีบจอง โดยเฉพาะเดือนพฤษภาคม ปิดเทอม)
กรกฎาคม-สิงหาคม-กลางกันยายน ฤดูร้อน มีเทศกาลต่างๆ และคึกครื้น สถานที่ท่องเที่ยวเปิดให้บริการทุกแห่ง เที่ยวได้ทั้งวัน มืดช้า (อากาศเดือนกันยายนดีมาก น่าเที่ยว ส่วนเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม ถือว่าร้อนแบบไทย)
กลางกันยายน-ตุลาคม-ต้นพฤศจิกายน ฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้เปลี่ยนสี อากาศเย็น มีลม (อากาศเดือนตุลาคม มีใบไม้เปลี่ยนสี สวยงาม ปลายพฤศจิกายนเป็นต้นไปเริ่มหนาวมาก)
อ่านเพิ่มเติมเรื่องสภาพอากาศเดือนต่างๆ อย่างเจาะลึกได้ที่เวบไซต์ Mthai.com
อินเตอร์เน็ต wifi ในยุโรป
หากต้องการใช้อินเตอร์เน็ตทางมือถือในเชค ออสเตรีย ฮังการี และเยอรมัน มีทางเลือกคือ
1. เปิด Roaming มาจากเมืองไทย แล้วใช้ Airplane Mode เพื่อเปิดรับ Free-Wi-fi เวลาไปตามร้านอาหารหรือโรงแรมต่างๆ ก็จะประหยัดเรื่องค่าใช้จ่ายไป โรงแรมส่วนมากที่เราเลือกพัก มี free wifi ยกเว้นท่านที่เลือกพัก 5 ดาว เกือบทุกแห่งจะเก็บเงินค่าอินเตอร์เน็ต หรือฟรีเฉพาะที่ lobby แต่ถ้าพักโรงแรมระดับไม่ 5 ดาว ส่วนมากฟรี
2. ถ้าอยาก connect ตลอดเวลา ต้องซื้อ Internet Sim Card ค่ะ ถ้าซื้อซิมเดียวใช้ 4 ประเทศ ค่าซิมไม่แพง แต่ค่าบริการนอกประเทศที่ซื้อจะสูงขึ้นมาก ทางร้านแนะนำให้ซื้อเป็นซิมแยกแต่ละประเทศค่ะ ราคาไม่เท่ากัน อยู่ที่ 10 - 20 ยูโร และมีค่า Package อีกประมาณ 8 - 10 ยูโร ตามแต่ operator ของแต่ละประเทศค่ะ สรุปถ้าใช้ซิมอินเตอร์เน็ต เสียค่าใช้จ่ายประเทศละ 20-30 ยูโร
แพคกระเป๋าไปยุโรป
สำหรับฤดูร้อน เหมือนการเที่ยวยุโรปทั่วไป สอดคล้องกับฤดู ถ้าชอบถ่ายรูป เตรียมที่สีสันๆ มาค่ะ ภาพจะได้สดใส โดยฉพาะหน้าหนาว เพราะถ้าเตรียมมาแต่สีเข้ม รูปจะหมอง
ส่วนกระเป๋า เตรียมมาพอดี เพราะ ท่านต้องลากกระเป๋าเอง ทุกวัน เพราะเปลี่ยนโรงแรมแทบทุกวัน ไม่มีคนยกให้ เพราะโรงแรมเป็นแบบประหยัด แล้วบางแห่งไม่มีลิฟท์ + ให้เตรียมกระเป๋าใบเล็กสำหรับขนเสื้อผ้าในบางวันที่โรงแรมไม่มีลิฟท์ค่ะ เช่น ที่ Cesky Krumlov และ Hallstatt
"รองเท้าผ้าใบ" เพราะปรากเป็นเมืองที่พื้นหินและตะปุ่มตะปำ่ทั่วเมือง ถ้าใส่รองเท้าหนัง จะระบมทั้งคืน
ชุด "ว่ายน้ำ" หากต้องการว่ายน้ำที่เมืองคาโรวีวารีค่ะ
รองเท้าผ้าสำหรับใส่ในโรงแรม เพราะหน้าหนาว พื้นเย็นมาก โดยเฉพาะเวลาเข้าห้องน้ำ พื้นกระเบื้องจะเย็น
ร่มพับได้ สีสันสด ไว้ถ่ายรูปได้สวยๆ และกันแดด กันฝน
ส่วนระบบอินเตอร์เน็ต โรงแรมส่วนใหญ่ที่จองให้ มี wifi ใช้ฟรีค่ะ ยกเว้นบางที่เท่านั้น + ให้เตรียมซิมโทรต่างประเทศจากเมืองไทย
บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตการ์ด ใช้ได้เกือบทุกร้านอาหาร และร้านชอปปิ้งในเช็ก และออสเตรีย ไม่จำเป็นต้องเตรียมเงินยูโรมามากๆ รูดบัตรได้เลยค่ะ อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันนั้นของธนาคาร
หมวกอาบน้ำ
เสื้อกันหนาว สำหรับท่านที่อยากขึ้นกระเช้าชมเขาที่ออสเตรีย ให้เตรียมเสื้อผ้าสำหรับอุณหภูมิ 0 องศา
ไฟฉายดวงใหญ่ๆ ขอบอกว่าสำคัญนะคะ ^^ เอาไว้ส่องหน้า เวลาถ่ายรูปกลางคืน จะเหมือนถ่ายสตูดิโอเลย ภาพสวยมาก โดยเฉพาะเวลาไปเที่ยวที่เมืองเชสกี้ ครุมลอฟ ที่ค่ำคืนโรแมนติกมาก เดินได้ทั้งคืน
ปลั๊กไฟ แบบหัวกลม 2 ขา ตรงกลางเป็นรู สำหรับใช้ในยุโรป
น้ำพริก สำหรับกินกับสเต๊กซ์ สำหรับท่านที่ทานอาหารยาก, หม้อหุงข้าว สำหรับท่านที่เที่ยวนานๆ สองอาทิตย์ เตรียมข้าวสารมาด้วยเลย, ขนมต่างๆ เช่น ชนมพวกเก็บได้นานๆ แบบของฝากจากชะอำ ระยอง พวกปลาหมึก ปลากินเล่น ฯลฯ มาม่าคัพ, เสบียงส่วนตัว, ไข่เค็ม, หมูแห้ง, หมูรวน ฯลฯ แล้วแต่เทคนิคของแต่ละคน // หากท่านต้องการต้มมาม่า โปรดเตรียมกาต้มน้ำมาเอง เพราะโรงแรมไม่ได้มีให้ทุกที่ค่ะ
การแลกเงิน
ที่เช็กใช้เงินโครน และยูโร บางที่ ท่านแลกเป็นยูโรเท่านั้น ไม่ได้รับยูโรทุกที่ ท่านแลกเงินยูโรมาจากไทยแล้วเอายูโรมาแลกเป็นเงินโครนที่เช็กค่ะ (ที่กรุงเทพ ไม่มีที่แลกเงินโครน) เงินยูโรเท่านั้น ไม่สามารถเที่ยวได้ที่เช็ก เพราะมีหลายร้านไม่รับเงินยูโร เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนผันผวน
หากท่านอยู่ต่างประเทศ สามารถนำเงินปอนด์ ดอลลาร์ มาแลกเป็นยูโรได้ที่เช็กเลยค่ะ ไม่ต้องแลกเป็นยูโรจากประเทศท่าน มาแลกที่เช็ก ได้เรตดีกว่า อ่านเรื่องการแลกเงินในเชค ได้ที่นี่ อย่างไรก็ตาม เรามีบริการ พาท่านไปแลกเงินในร้านที่เราได้เรตที่ดีที่สุดในกรุงปรากค่ะ
ที่พักมีอินเตอร์เน็ตไหม
พยายามเลือกทุกที่พัก ให้มีเน็ตแบบ wifi นอกจากหาไม่ได้จริงๆ
มีผ้าเช็ดตัวหรือไม่
มีทุกที่ค่ะ และห้องพักมีห้องน้ำในตัวทุกที่ค่ะ
ทัวร์มีน้ำดื่มให้ไหม
ทัวร์ของเราไม่มีน้ำให้ เพราะน้ำที่เช็กและยุโรปดื่มจากก๊อกได้ค่ะ ราคาน้ำที่เช็ก ขวดเล็กแบบบ้านเรา 10 บาท ที่โน่น 40 บาทค่ะ ถ้าตามร้านอาหาร 80 บาท แต่ที่เวียนนา ราคาแพงกว่านี้ ตามร้านขายของ 70-80 บาท และตามร้านอาหาร ร้อยกว่าบาทค่ะ
ปลั๊กไฟยุโรปเป็นแบบไหน
กระแสไฟใช้กับไทยได้ค่ะ ไม่ต้องมีที่แปลง แต่ขาต่างกัน ของเช็ก เป็นปลั๊กขากลม แบบสองขาเท่านั้นค่ะ เลยต้องไปซื้อที่แปลงขามาด้วยนะคะ ลักษณะเหมือนปลั๊กสามขาบ้านเรา แต่ต้องเอาแบบที่มีสองขาค่ะ และไม่ใช่แบบเหลี่ยม ต้องเป็นแบบกลม (ปล. จากภาพประกอบ ปลั๊กไฟของประเทศออสเตรีย ก็แบบเดียวกันกับที่เช็กค่ะ )
ผู้สูงอายุมาเที่ยวได้ไหม / เด็กมาเที่ยวได้ไหม
ผู้สูงอายุมาได้ค่ะ เส้นทางของเราไม่รีบเร่ง ทัวร์เราไปกันเอง ยืดหยุ่นได้ ขึ้นอยู่กับกลุ่ม ส่วนเด็กก็มาได้ เส้นทางของเรา ไม่อันตรายสำหรับเด็ก นอกจากใจกลางเมืองที่คนเยอะ ระวังพลัดหลง แต่ผู้ปกครองต้องรับผิดชอบดูแลความปลอดภัยของเด็กเอง ส่วนเรื่องอื่นๆ ไม่มีปัญหา ที่นี่ต้อนรับเด็กในทุกที่ และผู้ปกครองเที่ยวกับเด็กเป็นเรื่องปกติ
ท่านที่นั่งวีลแชร์มาได้ค่ะ ขอให้เป็นการเหมาทริปของคณะ เพื่อที่จะปรับเปลี่ยนโปรแกรม และที่พักให้สะดวกขึ้นค่ะ // เรามีรถสำหรับนักเดินทางวีลแชร์ค่ะ
ทัวร์เริ่มกี่โมง เลิกกี่โมง
เที่ยวแบบสบาย ไม่รีบเร่ง ได้เที่ยว และพักผ่อนไปในตัว เริ่มต้น 9 โมงเช้าค่ะ เลิก 6-7 โมงเย็น นอกเหนือจากนั้น ท่านเดินเที่ยวเองอิสระค่ะ เพราะว่าเป็นกฏหมายสำหรับคนขับรถที่นี่ค่ะ ต้องทำงานตามกฏหมาย เพื่อความปลอดภัยในการขับรถให้พวกเรา
การทิปในยุโรป
การทิปตามร้านอาหารและโรงแรม ขอความกรุณาท่านทิปเป็นน้ำใจตามความพอใจและตามธรรมเนียมยุโรป ตามร้านอาหาร และห้องพัก สำหรับพนักงานทำความสะอาด หรือยกกระเป๋า เพื่อให้กลุ่มคนไทยกลุ่มอื่นๆ ที่ไปเที่ยวในครั้งต่อไป ได้รับบริการตามความเหมาะสมนะคะ เพราะว่าเป็นธรรมเนียมของที่นั่น และแพคเกจของเราไม่ได้รวมทิปต่างๆ ไว้ เพราะเป็นกลุ่มเล็ก ... ขอความกรุณาท่านด้วยค่ะ เพราะที่ผ่านมา ไม่ทิปแล้ว เขาก็ไม่อยากรับทัวร์จากเรา หรือว่าบริการไม่ค่อยดีในครั้งต่อไปค่ะ // ขอบพระคุณนะคะลูกทัวร์ที่น่ารักทุกๆ ท่าน
การทิปในร้านอาหาร 5- 10 เปอร์เซนต์ จากบิล
ทำไมต้องทิปลีดเดอร์ทัวร์และคนรถเพิ่ม ทำไมราคาไม่รวมทิปไปเลย?
เนื่องจากทริปของเรา เป็นทริปกลุ่มเล็ก มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไป ราคาของเราจึงไม่รวมทิปลงไปด้วย เพราะระบบทิป จะยังช่วยกระตุ้นให้คนทำงานมีจิตใจบริการเกินหน้าที่เพื่อให้ท่านได้รับบริการพิเศษตามความสนใจ เพื่อให้ท่านได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น จึงเป็นประโยชน์กับท่านมากกว่า
อีกทั้งระบบทิปยังเป็น "ธรรมเนียมปฏิบัติ" ของระบบทัวร์ในยุโรป เพราะระบบ "ค่าแรง" และ "ชั่วโมงทำงาน" ในยุโรป ค่อนข้างสูงนั่นเองค่ะ หากบริษัทของเรารวมทิปไปเลยในค่าจ้างอัตโนมัติ โดยให้ลีดเดอร์ทัวร์และคนรถทุกครั้งเป็นประจำ ก็จะกลายเป็นสิ่งที่ต้องให้ไปตามความเคยชิน ทำให้ไม่สามารถกระตุ้นให้เขาบริการคณะต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ทุกครั้งค่ะ