เวียนนา...สีสันยามค่ำคืน
เวียนนาตรงย่านเมืองเก่าเป็นที่รวมของสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งคักคักในยามค่ำคืน ราตรีมีสีสันกว่าช่วงกลางวัน เพราะโมเทรโพลิแทนเวียนนาก็จะออกมาสังสรรค์ตามร้านดีๆ ปะปนในย่านนักท่องเที่ยว ทำให้บรรยากาศคึกคักขึ้น
จากฮัลสตัทท์ เมื่อมาถึงเวียนนาอันทันสมัยและหรูหรา ร้านอาหารดีๆ เต็มไปหมด เช่นเดียวกับรถดีๆ แพงๆ และดิสเพลย์ของร้านค้าที่ดูทันสมัย เราเริ่มต้นเดินท่องจากสะดือย่านเมืองเก่า “มหาวิหารนักบุญสตีเฟน” (Stephansdom) เป็นโบสถ์สไตล์กอธิค ภายนอกดูสวยงามเก่าแก่ ตัดกับร้านค้าแบรนด์เนมสมัยใหม่รอบๆ ส่วนที่โดดเด่นมองเห็นได้ชัด คือหลังคาที่กระเบื้องสีลวดลายของราชวงศ์ฮับบวร์กอันยิ่งใหญ่ของออสเตรีย
จากนั้นเดินผ่านร้านรวง คาเฟ่ ร้านอาหาร และน้ำพุที่เฉลิมฉลองการสิ้นสุดโรคระบาด เดินไปยังบริเวณ “พระราชวังหลวงฮับบวร์ก” (Hofburg) ซึ่งเป็นที่รวมของทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอพาร์ตเมนท์หลวงที่ประทับของราชวงศ์และจักรพรรดินีอลิซาเบธ หรือ “ซีซี่” ที่โด่งดัง ซึ่งปัจจุบันเปิดให้ชมส่วนของวังและเอ็กซิบิชั่นพระนางซีซี่ จักรพรรดินีผู้เลอโฉม นอกจากนี้ยังมีส่วนจัดแสดงชาม ถ้วย โถ โอชามจากคอลเลคชันของฮับบวร์ก ที่สะท้อนให้เห็นความยิ่งใหญ่และพิธีรีตองในการจัดเลี้ยง
ด้านตรงข้ามเป็นโรงเรียนสอนขี่ม้าผู้ดีแบบยุคเก่า (Winter Ridding School) ที่ยังคงเปิดสอนอยู่ทุกวันนี้ แต่เปิดในลักษณะโชว์ให้นักท่องเที่ยวดู อีกล็อคหนึ่งเป็นที่ตั้งของ “ห้องสมุดหลวง” (The Austrian National Libery) ที่สวยงามคลาสสิค สะสมหนังสือโบราณที่สำคัญของโลกไว้มากมาย นอกจากนี้ยังประกอบด้วย “พิพิธภัณฑ์ลูกโลก” และของสะสมจากตะวันออกไกล เมื่อเราเดินผ่านประตูมายังอีกลานหนึ่ง ก็จะพบกับ “โรงละคร” ของวังหลวง ทะลุไปอีกลานจะเป็นประตูทางเข้าพระราชวังอีกด้าน ซึ่งตามผังแล้ว มันถูกจัดให้เป็นที่รองรับอาคันตุกะของวังในอดีต ก่อนที่ปัจจุบันจะแปรเปลี่ยนเป็น “พิพิธภัณฑ์อาวุธยุธโธปกรณ์” ในปัจจุบัน
ข้ามถนนไปอีกฝั่ง จะพบกับ “อนุสาวรีย์พระนางมาเรีย เทเรซ่า” และอาคารทรงเรเนอซองส์ที่รูปร่างเหมือนกันเปี๊ยบ ด้านหนึ่งเป็น “พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติ” (Kunsthistorisches Museum) ด้านหนึ่งเป็น “พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาแห่งชาติ” (Naturhistorisches Museum) ซึ่งสองพิพิธภัณฑ์ถูกจัดได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ดีที่สุดของเวียนนา
เมื่อข้ามถนนไปอีก จะเจอ “พิพิธภัณฑ์สมัยใหม่” (Museumsquartier) เดินเลี้ยวขวาไปอีกล็อค ก็พบกับรัฐสภาของออสเตรียสร้างในแบบโรมัน ตรงข้ามเป็นสวนสาธาณะที่เก่าแก่และสวยงาม รวมกุหลาบหลากหลายพันธ์ ส่งกลิ่นหอมถูกใจแม้ในเวลากลางค่ำคืน
ที่ติดกันนั้นคือ “โรงละครเบิร์ก” (Burgtheater) ที่ที่โมสาร์ตมาโด่งดังและเป็นต้นแบบโรงละครแบบคลาสสิคของยุโรป ตรงข้ามนั้นคือ “ศาลาว่ากลาง” ทรงกอธิคของเมืองเวียนนาที่ดูยิ่งใหญ่อลังการ ถัดไปเป็นมหาวิทยาลัยเวียนนาอันเก่าแก่ที่สุดของยุโรปแห่งหนึ่ง มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามเช่นกัน
สถานที่ท็อปเท็นเหล่านี้ในเวียนนาเรียกได้ว่าเราเดินชมได้ในหนึ่งราตรี จึงอาจบอกได้ว่าเวียนนาไม่ใช่เมืองใหญ่ด้วยขนาด แต่ใหญ่ด้วยประวัติศาสตร์ ผังเมืองที่เป็นระเบียบ บ้านเมืองที่สะอาด ภายในอาคารสวยงามต่างๆ ที่ยังมีข้าวของสมบัติงานศิลปะให้ชม และความเป็นเมืองแห่งดนตรีคลาสสิคของโลกที่ไม่ว่าอยู่ที่ไหนๆ คุณก็จะได้กลิ่นอายของมัน.
My Reviews:
- ตอนกลางคืน เวียนนาจะมีสีสันมาก คนออกมาเดินมากกว่า (ในย่านนักท่องเที่ยว)
- มหาวิหารนักบุญสตีเฟน สร้างขึ้นใกล้เคียงกับมหาวิหารนักบุญวิตุสในปราสาทกรุงปราก แต่ฉันว่าของปราก ด้านในกระจกสีสวยงามกว่า
- บริเวณย่านใกล้ๆ กันกับมหาวิหารนักบุญสตีเฟน ก็จะมีน้ำพุสำหรับเฉลิมฉลองการสิ้นสุดโรคระบาด
- ในเวียนนามีอนุสาวรีย์เยอะมาก และนี่ก็เป็นหนึ่งที่สำคัญที่สุด อนุสาวรีย์พระนางมาเรียเทเรซ่า
- ศาลาว่าการเมื่อมองจากมุมไกล เป็นอาคารหนึ่งที่สวยงามดูดี ฉันว่าสวยที่สุดในเวียนนาอาคารหนึ่ง
- อาคารรัฐสภาของออสเตรีย สร้างแบบสไตล์โรมัน ดูดี แต่ใหม่มาก ที่โดดเด่นคือโมเสสลวดลายสไตล์โรมันกรีกที่ฉันว่าสะท้อนปรัชญาการปกครองแบบยุคนั้นได้สวยงามและดูดี
My Guide
จากฮัลสตัทท์ไปเวียนนาอย่างไร ?
การเดินทางออกจากหมู่บ้านเลคไซค์อย่างฮัลสตัทท์เพื่อต่อไปยังเวียนนา เราต้องนั่งเรือข้ามฟาก ใช้เวลาแค่ห้านาที (มีเรือออกทุกๆ ชั่วโมง) ค่าโดยสารสี่ยูโร จากนั้นเดินไปแค่ห้าสิบเมตร ก็เจอสถานีรถไฟขนาดเล็ก รอไม่นาน รถไฟก็มาถึง จัดการซื้อตั๋วกับนายตรวจได้เลย เพียงบอกจุดหมายที่จะไป นายตรวจก็จะจัดการออกตั๋วจากเครื่องออกตั๋วอัตโนมัติ แล้วต่อรถไฟที่ “ สถานีเมือง Bad Ischl” (เมืองที่พระนางมาเรีย เทเรซ่า ทรงมาสร้างพระราชวังตากอากาศไว้) ค่ารถไฟคนละยี่สิบห้ายูโร (ซื้อจากสถานี) นั่งรถไฟสามชั่วโมง ก็ไปถึงเวียนนา
collumn: The World, True Escape Magazine text/foto: เนตรนภา แก้วแสงธรรม ยาเนซโกวา